วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2563

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การอ่านร้อยกรอง
trueplookpanya.com


 การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง
            การอ่านออกเสียงร้อยกรอง เป็นการอ่านที่มุ่งให้เกิดความเพลิดเพลินซาบซึ้งในรสของคำประพันธ์ ซึ่งจะต้องอ่านอย่างมีจังหวะ ลีลา และท่วงทำนองตามลักษณะคำประพันธ์เเต่ละชนิด
การอ่านบทร้อยกรอง อ่านได้ ๒ แบบ ดังนี้
            1. อ่านออกเสียงธรรมดา เป็นการอ่านออกเสียงพูด ตามปกติเหมือนกับอ่านร้อยแก้ว แต่มีจังหวะวรรคตอน
            2. อ่านเป็นทำนองเสนาะ เป็นการอ่านมีสำเนียงสูง ต่ำ หนัก เบา ยาว สั้นเป็นทำนองเหมือนเสียงดนตรี มีการเอื้อนเสียง เน้นสัมผัส ตามจังหวะ ลีลาและท่วงทำนองตามลักษณะบังคับของบทประพันธ์ให้ชัดเจนเเละเหมาะสม
 หลักเกณฑ์ในการอ่านออกเสียงร้อยกรอง
            1. ศึกษาลักษณะบังคับของคำประพันธ์ เช่น การเเบ่งจังหวะจำนวนคำสัมผัสเสียง วรรณยุกต์ เสียงหนักเบา เป็นต้น
            2. อ่านให้ถูกต้องตามลักษณะบังคับของคำประพันธ์
            3. อ่านออกเสียง ร ล คำควบกล้ำให้ชัดเจน
            4. อ่านออกเสียงดังให้ผู้ฟังได้ยินทั่วถึง ไม่ดังหรือค่อยจนเกินไป
            5. คำที่รับสัมผัสกันต้องอ่านเน้นเสียงให้ชัดเจน ถ้าเป็นสัมผัสนอกต้องทอดเสียงให้มีจังหวะยาวกว่าธรรมดา
            6. มีศิลปะในการใช้เสียง เอื้อนเสียง และทอดจังหวะให้ช้าจนจบบท
 ข้อควรคำนึงในการอ่านบทร้อยกรอง
        การอ่านบทร้อยกรอง หรือทำนองเสนาะ ให้ไพเราะและประทับใจผู้ฟังมีข้อควรปฏิบัติ ดังนี้
            1. ก่อนอ่านทำนองเสนาะควรรักษาสุขภาพให้ดี มีความพร้อมทั้งกายและใจ จะช่วยให้มั่นใจมากขึ้น
            2. ตั้งสติให้มั่นคง ไม่หวั่นไหว ตื่นเต้น ตกใจ หรือประหม่า ควรมีสมาธิก่อนอ่านเเละขณะกำลังอ่าน เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด
            3. ก่อนอ่านควรตรวจดูบทอ่านอย่างคร่าวๆ และรวดเร็วเพื่อพิจารณาคำยาก หรือการผัวรรณยุกต์ และอื่นๆ
            4. พิจารณาบทที่จะอ่าน เพื่อตัดสินใจ เลือกใส่อารมณ์ในบทอ่านให้เหมาะสมสอดคล้องกับเนื้อความ
            5. หมั่นศึกษาและฝึกฝนการอ่านทำนองเสนาะจากผู้รู้เกี่ยวกับกลวิธีต่างๆอยู่เสมอ จึงจะทำให้สามารถอ่านทำนองเสนาะได้อย่างไพเราะ
 คุณค่าของการอ่านทำนองเสนาะ
            1. ผู้ฟังเห็นความงามของบทร้อยกรองที่อ่าน
            2. ผู้ฟังได้รับความไพเราะและเกิดความซาบซึ้ง
            3. เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน
            4. จดจำบทร้อยกรองได้รวดเร็วเเม่นยำ
            5. ช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้เป็นคนอ่อนโยน
            6. ช่วยสืบทอดวัฒนธรรมในการอ่านทำนองเสนาะไว้เป็นมรดกของชาติ
 วิธีการอ่านทำนองเสนาะจากคำประพันธ์
            กลอนสุภาพ นิยมอ่านเสียงสูง ๒ วรรค และเสียงต่ำ ๒ วรรค

            การเเบ่งจังหวะวรรคในการอ่าน มีดังนี้

                วรรคละ ๖ คำ อ่าน ๒/๒/๒ OO/OO/OO
                วรรคละ ๗ คำ อ่าน ๒/๒/๓ OO/OO/OOO
                วรรคละ ๘ คำ อ่าน ๓/๒/๓ OOO/OO/OOO
                วรคคละ ๙ คำ อ่าน ๓/๓/๓ OOO/OOO/OOO

ตัวอย่าง

การเเบ่งจังหวะวรรคละ ๖ คำ
            ไผ่ซอ/อ้อเสียด/เบียดออด//                   ลมลอด/ไล่เลี้ยว/เยวไผ่//
            ออดเเอด/แอดออด/ยอดไกว//                แพใบ/ไล้น้ำ/ลำคลอง//

การเเบ่งจังหวะวรรคละ ๘ คำ
            เเล้วสอนว่า/อย่าไว้/ใจมนุษย์                มันเเสนสุด/ลึกล้ำ/เหลือกำหนด
            ถึงเถาวัลย/พันเกี่ยว/ที่เลี้ยวลด//            ก็ไม่คด/เหมือนหนึ่งใน/น้ำใจคน//

กาพย์ยานี ๑๑ มีจำนวนคำ ๑๑ คำ นิยมอ่านเสียงสูงกว่าปกติจึงจะเกิดความไพเราะ

 การเเบ่งจังหวะวรรดในการอ่าน มีดังนี้
            วรรคหน้า ๕ คำ อ่าน ๒/๓ OO/OOO
            วรรคหลัง ๖ คำ อ่าน ๓/๓ OOO/OOO

ตัวอย่าง การเเบ่งจังหวะกาพย์ยานี ๑๑

            เรื่อยเรื่อย/มารอนรอน//                       ทิพากร/จะตกต่ำ//
            สนธยา/จะใกล้ค่ำ//                            คำนึงหน้า/เจ้าตราตรู
            เรื่อยเรื่อย/มาเรียงเรียง//                      นกบินเฉียง/ไปทั้งหมู่//
            ตัวเดียว/มาพลัดคู่//                           เหมือนพี่อยู่/ผู้เดียวดาย//


sites.google.com
 ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การอ่านร้อยกรอง

sites.google.com

การอ่านออกเสียงร้อยแก้ว

            การอ่านออกเสียงร้อยแก้ว หมายถึง การอ่านถ้อยคำที่มีผู้เรียบเรียงหรือประพันธ์ไว้ โดยการเปล่งเสียง และวางจังหวะเสียงให้เป็นไปตามความนิยม และเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ไปสู่ผู้ฟัง ซึ่งจะทำให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์ร่วมคล้อยตามไปกับเรื่องราว หรือรสประพันธ์ที่อ่าน

 หลักเกณฑ์ในการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว
            1. ก่อนอ่านควรศึกษาเรื่องที่อ่านให้เข้าใจ เพื่อเเบ่งวรรคตอน
            2. อ่านให้คล่อง และเสียงดังพอเหมาะกับสถานที่และจำนวนผู้ฟัง
            3. อ่านให้คล่องและถูกต้องตามอักขรวิธี โดยเฉพาะ ร ล คำควบกล้ำต้องออกเสียงให้ชัดเจน
            4. เน้นเสียงและถ้อยคำ ตามน้ำหนักความสำคัญของใจความ ใช้เสียงและจังหวะให้เป็นไปตามเนื้อเรื่อง เช่น ดุ อ้อนวอน จริงจัง ฯลฯ
            5. อ่านออกเสียงให้เหมาะสมกับประเภทของเรื่อง เช่น ถ้าอ่านเรื่องที่ให้ข้อเท็จจริงทั่วไป จะอ่านออกเสียงธรรมดาให้ชัดเจน
            6. ในระหว่างที่อ่าน ควรกวาดสายตามองตัวอักษร สลับกับการเงยหน้าขึ้นมาสบตาผู้ฟัง ในลักษณะที่เหมาะสม และดูเป็นธรรมชาติ
            7. ถ้าอ่านในที่ประชุม ต้องยืนทรงตัวในท่าทางที่สง่า มือที่จับกระดาษอยู่ในท่าทางทีเหมาะ ไม่เกร็ง ไม่ยกกระดาษ หรือเอกสารบังหน้า หรือไม่ถือไว้ต่ำเกินไปจนต้องก้มลง

 วิธีการอ่านออกเสียงข้อความที่เป็นร้อยแก้ว        สร้างวัฒนธรรมคนรุ่นใหม่ให้เป็นนักอ่าน
  ในปัจจุบันกล่าวกันว่า/ เรากำลังอยู่ในยุคโลกาภิวัฒน์ หรือเรียกอีกอย่างว่าโลกไร้พรมแดน// แต่จะเรียกอย่างไรก็ตามเถิด/การอ่าน/ ก็เป็นกระบวนการสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาคนในทศวรรษนี้/ เพราะโลกของการศึกษา/ มิได้จำกัดอยู่ภายในห้องเรียน/ ที่มีลักษณะรูปทรงสี่เหลี่ยมเเคบๆ เท่านั้น/ เเต่ข้อมูลข้าวสารสารสนเทศต่างๆ /ได้ย่อโลกให้เล็กลงเท่าที่เราอยากรู้ได้รวดเร็ว/ ในชั่วลัดนิ้วมือเดียวอย่างที่คนโบราณกล่าวไว้/ จะมีสื่อให้อ่านอย่างหลากหลายให้เลือก/ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ที่เราคุ้นเคย/ ไปจนสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า "อินเทอร์เน็ต" เพราะการต่อสู้รุกรานกันของมนุษย์ยุคใหม่/ จะใช้ข้อมูล/ สติ/ ปัญญา/ และคุณภาพของคนในชาติ/ มากกว่าการใช้กำลังอาวุธเข้าประหัตประหารกัน// หากคนในชาติด้อยคุณภาพ/ ขาดการเรียนรู้/ จะถูกครอบงำทางปัญญาได้ง่ายๆ / จากสื่อต่างๆ จากชาติที่พัฒนาเเล้ว
            หากคนไม่อ่านหนังสือ/ ก็ยากที่จะพัฒนาสติปัญญา และความรู้ได้/ โดยเฉพาะประเทศที่กำลังพัฒนา/ จะต้องทุ่มเทให้คนมีนิสัยรักการอ่าน/ มีทักษะในการอ่าน/ และพัฒนาวิธีการอ่านให้เป็นนักอ่านที่ดี// นักอ่านที่ดีจะมีภูมิคุ้มกันการครอบงำทางปัญญาได้เป็นอย่าง/ รู้เท่ากันคน และสามารถแก้ปัญหาได้ดี

ชาติก้าวไกลด้วยคนไทยรักการอ่าน : มานพ ศรีเทียม

* เครื่องหมาย / หมายถึง การหยุดเว้นช่วงจังหวะสั้นๆ
  เครื่องหมาย // หมายถึง การหยุดเว้นช่วงจังหวะที่ยาวกว่าเครื่องหมาย /
  เครื่องหมาย ____ หมายถึง การเน้น การเพิ่มน้ำหนักของเสียง


sites.google.com
            

วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2563

sites.google.com

ประเภทของการอ่าน
            การอ่านแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ การอ่านในใจและการอ่านออกเสียง

การอ่านในใจ 
            การอ่านในใจ คือการแปลความหมายของตัวอักษรออกมาเป็นความคิด ความเข้าใจ และนำความคิดความเข้าใจที่ได้นั้นไปใช้ให้เป็นประโยชน์ ประเภทของการอ่านดังต่อไปนี้คือ
            1. การอ่านจับใจความ
                การอ่านจับใจความเป็นพื้นฐานของการอ่านในใจที่มุ่งคุณค่าทางสติปัญญา แบ่งการอ่านชนิดนี้ออกเป็น 2 ประเภทคือ
                1.1 การอ่านจับใจความส่วนรวม เป็นการอ่านเพื่อเข้าใจเนื้อหาส่วนรวม เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการอ่านอย่างรวดเร็ว
                วิธีการอ่าน
                    1) สังเกตส่วนประกอบของงานเขียน เช่น ชื่อเรื่อง คำนำวัตถุประสงค์ ของผู้เขียนว่าเป็นงานเกี่ยวกับอะไร และเขียนเพื่ออะไร
                    2) วิเคราะห์จุดมุ่งหมายงานเขียนว่าเขียนด้วยวัตถุประสงค์ใด
                    3) จัดลำดับเนื้อหาใหม่ตามความสำคัญ
                    4) ใช้การตั้งคำถามกว้าง ๆ ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร และทำไม เพื่อหาความสัมพันธ์ในการดำเนินเรื่อง


การอ่านออกเสียง
            การอ่านออกเสียง หมายถึงการอ่านข้อความโดยการเปล่งเสียงออกมาเพื่อให้ผู้อื่นได้รับรู้ข้อความนั้น ๆ ด้วยการอ่านออกเสียงแบ่งเป็น 2 ลักษณะคือ
            1. การอ่านออกเสียงปกติ เป็นการอ่านออกเสียงตามปกติทั่วไป อ่านได้ทั้งบทร้อยแก้วและร้อยกรอง เช่น อ่านข่าว อ่านประกาศ อ่านตีบท อ่านสารคดี อ่านข้อความประกอบภาพนิ่ง หรืออ่านบทภาพยนตร์ ฯลฯ
                ข้อควรปฏิบัติในการอ่านออกเสียงตามปกติ
                    - ทำความเข้าใจกับเรื่องที่จะอ่านก่อนการอ่านจริง
                    - ออกเสียงชัดเจน ดังพอประมาณ มีลีลาจังหวะในการอ่านอย่างเหมาะสม
                    - แบ่งวรรคตอนได้ถูกต้อง
                    - อ่านออกเสียงถูกต้องตามอักขรวิธี
            2. อ่านทำนองเสนาะ การอ่านทำนองเสนาะเป็นการอ่านออกเสียงบทร้อยกรองหรือวรรณคดีไทยให้ไพเราะน่าฟัง มุ่งให้เกิดความรู้สึกซาบซึ้ง เกิดอารมณ์ จินตนาการ คล้อยตามบทร้อยกรองนั้น ๆ ด้วย
                หลักเกณฑ์ในการอ่านทำนองเสนาะ
                    - ต้องรู้จักลักษณะคำประพันธ์ที่จะอ่านก่อนว่าบังคับฉันทลักษณ์อย่างไร
                    - อ่านให้ถูกทำนอง
                    - ควรมีน้ำเสียงและลีลาในการอ่านที่ดี
                    - ออกเสียงแต่ละคำถูกต้องชัดเจน



https://sites.google.com/site/phasathiykabkarchi/bth-thi-4-kar-subkhn-laea-karna-senx/3-3-prapheth-khxng-kar-xan